Articles
การบริหารจัดการหมูขุน
Knowledge ความรู้ทั่วไปเมื่อคนหันมาเลี้ยงหมูขุนกันเพิ่มขึ้นการบริหารจัดการหมูขุนก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำความเข้าใจเป็นอย่างดี เนื่องจากสภาพเศษฐกิจที่ไม่คล่องตัวมากนักในตลาดนี้ อันเนื่องมาจากบางรายยังขาดข้อมูลทางด้านการตลาด และด้านการบริหารจัดการโดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ดังนั้นการศึกษาทิศทางแนวโน้มของตลาด เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะต้องควบคู่กันเพื่อให้ธุรกิจเลี้ยงหมูขุนได้กำไรและสามารถเติบโตไปได้ไกลอย่างมากที่สุด
การบริการจัดการหมูขุนนั้นจะต้องมีการศึกษาทิศทางการเติบโตของตลาดอยู่ตบอดเนื่องจากเป็นธุรกิจที่คนหันมาสนใจกันเยอะ โดยสิ่งที่ต้องทำการศึกษาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในการบริหารจัดการหมูขุนมีดังนี้
1. ด้านตลาดหมูขุน
เป็นที่ทราบกันว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขัน และผกผันอยู่ตลอดเวลาอาจมีการแข่งขันกันทั้งรายเล็กและรายใหญ่ หากผู้ที่ทำธุรกิจหมูขุนนี้จะต้องศึกษาความต้องการของตลาดให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำหนัก ลักษณะรูปพรรณของหมูขุนว่ามีขนาดตัวที่สมบูรณ์ครบถ้วนหรือไม่ เพื่อให้ตรงตามความต้องการของตลาดหมูขุน และเพื่อเป็นสิ่งที่สามารถการันตีได้ว่าหมูขุนที่เลี้ยงทุกตัวมีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากได้รับการดูแลที่ดีและทั่วถึง
2. การป้องกันโรค
การป้องกันโรคคือหัวใจหลักในการเลี้ยงดูสัตว์แทบทุกชนิด หรือแม้แต่กับคนเองก็ตาม หมูขุนในฟาร์มทุกตัวจะต้องได้รับวัคซีนที่ดีในการป้องกันโรค และทางฟาร์มจะต้องมีความเข้มงวดในการเข้าออกฟาร์มเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคสามารถแพร่ระบาดไปทั่วได้ ต้องมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามจุดต่าง ๆ ของฟาร์ม รวมถึงการดูแลอุปกรณ์ในการเลี้ยงไม่ให้มีแบคทีเรียสะสมได้
ทางฟาร์มจะต้องทำการติดต่อกรมปศุสัตว์เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดวัคซีนให้หมูขุน หรือให้มาจัดการดูแลในเรื่องสุขภาพของหมูขุนทุก ๆ เดือน เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์ และเพื่อความปลอดภัย ปลอดโรคของคนเอง
3. การให้อาหาร
การให้จัดการแบ่งสัดส่วนอาหารให้สัตว์ในแต่ละช่วงวัยเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้สัตว์เจริญเติบโตได้อย่างดี โดยจะต้องให้เหมาะ อายุ น้ำหนัก โดยอาหารหมูขุนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะเป็นของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสูตรอาหารที่หลากหลายและสามารถเลือกซื้อได้อย่างสะดวก โดยมีการรับรองจาก GMP , HACCP เป็นที่น่าเชื่อถือ หรือจะเป็นสูตรอาหารที่หาได้ง่ายทั่วไปในแหล่งใกล้เคียง เช่น รำข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลังที่นำมาผสมกันให้ได้เป็นอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนลูกหมูจะใช้อาหารเลียในราง โดยใช้กับลูกหมูที่มีอายุ 1 สัปดาห์ โดยให้ร่วมกับน้ำนมแม่
4. โรงเรือนที่อยู่อาศัย
สำหรับโรงเรือนที่อยู่อาศัยนั้นจะต้องเป็นพื้นที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง และไม่แออัดมากจนเกิดไป และจะต้องเหมาะกับสภาพอากาศในแต่ละฤดู ซึ่งในช่วงฤดูร้อนในโรงเรือนจะต้องมีอุปกรณ์ให้น้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของสัตว์ เนื่องจากมีอากาศที่ร้อน และในหน้าหนาวจะเป็นปัญหาอย่างมากเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นจะทำให้สัตว์ไม่สบายตัว โดยจะต้องมีม่าน หรือผ้านำมาคลุมโรงเรือนไว้เพื่อไม่ให้มีลมเข้ามา ส่วนหน้าฝนไม่ค่อยเกิดปัญหามากนัก แต่ก็ต้องคอยระวังเรื่องอุทกภัย จะต้องสร้างโรงเรือนที่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เป็นอย่างดีเพื่อมาให้เกิดความเสีย(อันนี้งง ?)ในวงกว้าง
5. การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม
เป็นเรื่องที่ต้องตระหนักอย่างมากเนื่องจากการเลี้ยงหมูขุนจะต้องมีของเสียที่ต้องกำจัด ไม่ว่าจะเป็นมูล หรือฉี่ ต่าง ๆ ทั้งนี้การจัดการที่ดีทางฟาร์มจะต้องมีพื้นที่เพื่อให้สามารถกำจัดของเสียได้อย่าง และไม่กระทบต่อธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่แล้วหลังจากการให้อาหารจะต้องทำการเก็บมูลเพื่อนำไปตากแห้ง และสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยเพื่อใช้ประโยชน์ต่อได้ บางรายอาจะนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจในการทำปุ๋ยที่ทำมาจากมูลสัตว์ นั่นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยจัดการกับการกำจัดของเสีย ในส่วนของฉี่ หรือนำที่มาจากการชำระล้างหมู คอกต่าง ๆ ทางฟาร์มจะต้องมีบ่อเพื่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อส่งผลดีต่อระบบนิเวศ
6. การจัดจำหน่าย
การจะจัดจำหน่ายหมูขุนได้นั้นจะต้องมีการตลาดที่แข็งแกร่ง และการประชาสัมพันธ์ที่สม่ำเสมอเพื่อให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อาจจัดทำเพจเพื่อทำการประชาสัมพันธ์ และสิ่งนี้นอกจากจะเป็นที่รู้จักได้แล้ว ยังสามารถประหยัดแรงในการนำหมูออกไปขายตามท้องตลาด เนื่องจากจะสามารถนำพาคนเข้ามาหาเราเองได้ โดยการจัดจำหน่ายหมูขุนจะต้องทำการวางแผนว่าจะจำหน่ายหมูขุนในช่วงอายุใดบ้าง และต้องดูราคาในตลาด หากตั้งสูงเกินไปจะขายไม่ค่อยได้ และต้องมั่นใจว่าราคาที่ตั้งกับคุณภาพหมูที่จะขายนั้นเหมาะสมกัน และอีกเรื่องนึงที่ต้องคำนึงในการตั้งราคานั่นก็คือราคาจะต้องสมเหตุสมผลกับค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์ นอกจากการประชาสัมพันธ์เพื่อเป้นที่รู้จักในวงกว้าง การออกไปหาเครื่องข่ายต่างจังหวัดก็เป็นสิ่งที่ดีในด้านการขยายธุรกิจ เพื่อให้มีพันธมิตรในการจำหน่ายที่แข็งแกร่งได้
ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังศึกษาเกี่ยวกับการบริหารจัดการหมูขุนนั้นจะต้องบทำความเข้าใจรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน เพื่อไม่ให้ข้อมูลตกหล่น และจะสามารถทำการบริหารจัดการหมูขุนที่จะสามารถนำพาธุรกิจหมูขุนไปได้ไกล และเติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถก้าวไปเป็นรายใหญ่ได้อย่าแข็งแกร่ง โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายที่มีความรู้ในการเลี้ยงสัตว์อย่างเดียวคงไม่ได้ แต่จะต้องมีความเข้าใจในตัวสัตว์ด้วย เนื่องจากสัตว์แต่ละตัวมีวิธีการเลี้ยงที่แตกต่างกัน ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่จะทำความเข้าใจในการบริหารจัดการเพื่อให้ฟาร์มผลิตหมูขุนออกมาได้อย่างมีคุณภาพ