กันยายน 1, 2021

การป้องกันภาวะความเครียด เนื่องจากความร้อน (Heat Stress)

แนวทางป้องกันและควบคุมโรค

โคนมสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบาย (comfort zone) ในช่วงอุณหภูมิ 4-25 ◦C ซึ่งอุณหภูมิหน้าร้อน เฉลี่ยสูงสุดปี 2563 >36.1 C

ปัญหาที่พบในหน้าร้อน

  • โคมีการหายใจสูงกว่า 80 ครั้ง/นาที หรือหอบ เป็นอาการที่สังเกตเห็นได้เมื่อเกิดสภาพเครียดจากความร้อน
  • โคกินอาหารน้อยลง กินน้ำเพิ่มขึ้น ได้รับโภชนะ โดยเฉพาะพลังงานไม่เพียงพอเนื่องจากโคต้องใช้พลังงานในการลดอุณหภูมิของร่างกายลง
  • สูญเสียสมดุล กรด-ด่างในร่างกาย ทำให้เกิดกระเพาะหมักมีสภาพเป็นกรดและมีปัญหาเจ็บกีบ กีบอักเสบตามมา
  • การเคี้ยวเอื้องน้อยลง ค่า pH ในกระเพาะหมักลดลง มีการสูญเสียน้ำลายที่เป็นตัวปรับสภาพ pH ในกระเพาะหมัก
  • ผลผลิตและคุณภาพน้ำนมลดลง มากกว่า 20 %
  • การเป็นสัดน้อยลงและสั้น ผสมติดยาก อัตราการผสมติดลดลง
  • ปัญหาการแท้งตายของตัวอ่อนระยะแรกเพิ่มขึ้น
  • หากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม แม่โคจะหาที่นอนที่เย็น ซึ่งมักชื้นแฉะ จึงอาจเกิดปัญหาเต้านมอักเสบแบบไม่แสดงอาการเพิ่มขึ้น

ความร้อนในโคนมเกิดจากอะไรบ้าง

  • ความร้อนเนื่องจากกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) ในร่างกาย
  • ความร้อนจากการให้ผลผลิต ทุก 0.45 กิโลกรัมของน้ำนมที่แม่โคผลิตได้จะมีการผลิตความร้อนภายในร่างกายถึง 10 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง
  • แม่โคที่ให้น้ำนมสูง จะกินอาหารในปริมาณมากกว่าปกติ เพื่อให้สารอาหารเพียงพอที่จะนำไปใช้ผลิตน้ำนม จึงเกิดความร้อนในตัวมากกว่า แม่โคที่ให้น้ำนมน้อย หรือปานกลาง

เป้าหมายการลดความเครียดจากสภาวะความร้อน

  • เพิ่มอัตราการกินได้มากขึ้น ลดการสูญเสียน้ำหนักตัว โดยเฉพาะแม่โคนมคลอดใหม่ ที่ให้ผลผลิตสูงแต่การกินได้ต่ำ
  • ทำให้โครีดนม สามารถให้ผลผลิตน้ำนมได้ตามตามศักยภาพ
  • เพิ่มโอกาสการผสมติด การปฏิสนธิ และการฝังตัวของตัวอ่อนมีโอกาสสูงขึ้น ลดการสูญเสียตัวอ่อนในระยะต้นของการตั้งท้อง
  • ลดการสูญเสียพลังงาน

การลดอุณหภูมิในตัวโค

  1. ลดอุณหภูมิภายในโรงเรือนปิดด้วยระบบการระเหยของน้ำ (Evaporative cooling system)
    • ใช้หลักการของ Evaporative cooling system คือ มีช่องทางเข้าของลมผ่านแผงกระดาษที่มีน้ำหล่อและพัดลมดูดอากาศอยู่ที่ท้ายโรงเรือน
    • ความร้อนในตัวโคจะถูกถ่ายเทเข้าสู่ลมเย็นที่วิ่งเข้าปะทะ ด้วยกระบวนการพาความร้อน
    • ข้อเสีย คือ ต้องลงทุนสูงไม่คุ้มค่าสำหรับฟาร์มที่ให้ผลผลผลิตต่ำ หรือปานกลาง
  2. จัดการสภาพแวดล้อมเพื่อลดอุณหภูมิภายในโรงเรือน
    • การสร้างโรงเรือนให้หลังคายกสูง (~ 3 เมตร) และโปร่ง ถ่ายเทอากาศได้ดี
    • การติดตั้งพัดลมภายในโรงเรือน
  3. การพ่นน้ำที่ตัวโค
    • พ่นน้ำจากตำแหน่งที่หลังโคเป็นหยดน้ำ ทำให้ผิวหนังโคเปียกชุ่ม พ่นน้ำ 30-60 วินาที/ครั้ง
    • หยดน้ำส่วนเกินจะพาความร้อนส่วนหนึ่งออกจากตัวโค โดยการเป่าพัดลมที่มีความเร็วลมจะทำให้เกิดการระเหยของน้ำที่ผิวหนังและดึงความร้อนส่วนเกินออกจากตัวโค
    • ใช้เวลา 30-45 นาที/รอบ
  4. การจัดการ การให้อาหาร
    • จัดการช่วงเวลาในการให้อาหาร ในช่วงอากาศเย็น เช่น เช้ามืดหรือเย็น แบ่งมื้อการให้อาหาร เป็นหลายมื้อต่อวัน
    • เพิ่มความเข้มข้นของโภชนะในอาหาร เพื่อชดเชยปริมาณการกินได้ที่น้อยลง
    • ให้อาหารหยาบคุณภาพดี
  5. การจัดการน้ำ
    • ควรมีที่ให้น้ำที่เพียงพอต่อความต้องการของโค
    • น้ำควรอยู่ในที่ร่ม เย็นและสะอาด

พันธุกรรมดี อาหารดี อย่าลืมการจัดการที่ดี เพื่อประสิทธิฟาร์ม ที่ดียิ่งขึ้น